

มีหลายรุ่น หลายสเปค เหมือนเดิม
เปิดให้จองออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64
เริ่มวางขายหน้าร้านตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 64

และ Apple Watch Series 7 อีกด้วย
สเปคคร่าวๆแต่ละรุ่นเป็นยังไงไปดูกัน

* ชิป A15 Bionic
* กล้องหลัง 3 ตัว
* กล้องหน้า TrueDepth เล็กลง
* ใช้จอ Super Ratina XDR (APPLE Custom OLED)
* แบตเตอรี่ iPhone 13 Pro ใช้งานได้นานขึ้น 1.5 ชั่วโมง ส่วน iPhone 13 Pro Max เพิ่มขึ้น 2.5 ชั่วโมง
* เลนส์ Wide รับแสงได้มากขึ้นสูงสุด 2.2 เท่า
* เลนส์ Ultra-Wide รับแสงได้ดีขึ้น 92% ในที่แสงน้อย / มี Auto Fucus
* เลนส์ Telephoto ซูมแบบออปติคอลได้ 3 เท่า
* ถ่ายมาโครด้วยเลนส์ Ultra-Wide โฟกัสได้ในระยะห่างเพียง 2 ซม.
* วิดีโอ มี Macro Slomo / ปรับค่า f ในวิดีโอได้ (Cinematic Mode )
* ProRes รองรับ 4K 30fps
* iPhone 13 Pro 128GB ราคา 38,900 บาท
* iPhone 13 Pro 256GB ราคา 42,900 บาท
* iPhone 13 Pro 512GB ราคา 50,900 บาท
* iPhone 13 Pro 1TB ราคา 58,900 บาท
* iPhone 13 Pro Max 128GB ราคา 42,900 บาท
* iPhone 13 Pro Max 256GB ราคา 46,900 บาท
* iPhone 13 Pro Max 512GB ราคา 54,900 บาท
* iPhone 13 Pro Max 1TB ราคา 62,900 บาท
*

* ชิป A15 Bionic
* กล้องหลังแนวทะแยง
* ใช้จอ Super Ratina XDR
* กระจกหน้าจอ Ceramic Shield
* กันน้ำฝุ่น IP68
* กล้องหน้า TrueDepth เล็กลง
* ปรับดีไซน์แผงวงจรใหม่ แบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น
* แบตเตอรี่ของ iPhone 13 mini ใช้ได้นานขึ้น 1.5 ชั่วโมง ส่วน iPhone 13 ใช้ได้นานขึ้น 2.5 ชม
* จอสว่างขึ้น 28% ความสว่างสูงสุด 1200 นิต
* กล้อง Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เก็บแสงได้เพิ่มขึ้น 47 %
* กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์เร็วขึ้น
* ถ่าย Night Mode ได้ทุกเลนส์
* ถ่ายไทม์เลปส์โดยใช้ Night Mode ได้
* โหมดสำหรับถ่ายวิดีโอใหม่ เรียกว่า Cinematic Mode
* iPhone 13 mini 128GB ราคา 25,900 บาท
* iPhone 13 mini 256GB ราคา 29,900 บาท
* iPhone 13 mini 512GB ราคา 37,900 บาท
* iPhone 13 128GB ราคา 29,900 บาท
* iPhone 13 256GB ราคา 33,900 บาท
* iPhone 13 512GB ราคา 41,900 บาท
*

* ชิป A15 Bionic
* จอ True Tone
* Touch ID ที่ปุ่ม Power
* CPU เร็วขึ้น 40 %
* GPU เร็วขึ้น 80% ถ้าเทียบกับไอแพดมินิรุ่นที่ 5
* พอร์ต USB-C (เชื่อมต่อเร็วขึ้น 10 เท่า)
* รองรับ 5G ความเร็ว 3.5 Gbps
* รองรับ Wi-Fi 6
* กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล f1.8 มาพร้อม True Tone flash
* กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล แบบ Ultra Wide มีฟีเจอร์ Center Stage เหมือนใน iPad Pro M1
* ใช้กับ Apple Pencil รุ่นที่ 2
* แถม Adapter USB-C ขนาด 20W
* รุ่น WiFi 64GB ราคา 17,900 บาท
* รุ่น WiFi 256GB ราคา 23,400 บาท
* รุ่น WiFi + Cellular 64GB ราคา 23,400 บาท
* รุ่น WiFi + Cellular 256GB ราคา 28,900 บาท
*

* ใช้ชิป A13 Bionic เร็วขึ้น 20%
* ดีไซน์เดิม จอ 10.2″
* กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ Ultra Wide มาพร้อมมีฟีเจอร์ Center Stage เหมือน iPad Pro M1
* ยังคงใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 1
* แบตเตอรี่ใช้งานได้ทั้งวัน
* กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
* มาพร้อมอะแดปเตอร์ USB-C 20 W
* รุ่น Wi-Fi 64GB ราคา 11,400 บาท
* รุ่น Wi-Fi 256GB ราคา 16,900 บาท
* รุ่น Wi-Fi + Cellular 64GB ราคา 16,400 บาท
* รุ่น Wi-Fi + Cellular 256GB ราคา 21,900 บาท�

* เพิ่มพื้นที่หน้าจอมากขึ้น ขอบเล็กลง 40%
* ตัวเรือนขนาดใหม่ 41 mm และ 45 mm
* จอสว่างขึ้น 70%
* ประมวลผลเร็วขึ้น
* ใช้งานคีย์บอร์ดบน Apple Watch ได้แล้ว เหมือนคีย์บอร์ดบนไอโฟน
* มาพร้อมหน้าปัดไดนามิค และโมดูลาร์แบบใหม่
* หน้าจอรองรับการแตก เป็น AW ที่แข็งแรงที่สุด
* กันฝุ่น IPX6
* กันน้ำมาตรฐาน WR50
* แบตเตอรี่ใช้งาน 18 ชม
* ชาร์จได้เร็วขึ้น รองรับ Fast charge เร็วขึ้น 33% ใช้เวลา 45 นาที ชาร์จจาก 0-80%
* มีฟีเจอร์ ECG และวัดออกซิเจนในเลือดได้

เอาเป็นว่าช่วงนี้มีเวลาก่อนวางขายจริง ลองศึกษา
ฟีเจอร์ที่จำเป็นดูไปพลางก่อนตัดสินใจละกันน้า